[ไม่จำเป็นต้อง “Asset ใช้ Buying , Liability ใช้ Selling”
และสามารถคำนวณภาษีฯ ด้วย Functional Currency ได้]
พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 50) ได้ลงประกาศในราชกิจจาฯ แล้ว ในวันนี้ (7 เม.ย.) ซึ่งจะมีผลในวันพรุ่งนี้ (8 เม.ย.)
หลักใหญ่ใจความมี 2 เรื่อง คือ
📍 1. การตีค่าสินทรัพย์หนี้สินที่เป็นเงินตราต่างประเทศ ณ วันสิ้นงวดของกิจการที่ไม่ใช่ธนาคารฯ ไม่จำเป็นต้องใช้หลักการที่จำกัดเพียงแค่ว่า “Asset ใช้ Buying , Liability ใช้ Selling” ตาม 65 ทวิ (5) เดิม อีกต่อไป
ทั้งนี้ มีถึง 3 Options ให้เลือก ตามรูปเลยครับ
และที่เป็น Highlight คือ สามารถใช้ Average Buying&Selling ได้แล้ว (Option 1)
ดังนั้นในทางบัญชีที่เราๆ มักจะบอกว่า Asset ใช้ Buying , Liability ใช้ Selling “ก็เพราะสรรพากรนั่นแหละ” … พรุ่งนี้ (8 เม.ย.) เป็นต้นไป คงอ้างแบบเดิมไม่ได้แล้วนะครับ 🚫🚫🚫
หลังจากนี้แต่ละบริษัทคงต้องประเมินกันครับว่ายังอยากจะ Buying Selling กันเหมือนเดิม หรือจะใช้ Avg. Buying&Selling
คงต้องดูในแง่ Performance กันดีๆ ว่า Net Profit ในปัจจุบันนั้น ถูกกระทบจาก Spread Buying&Selling อยู่เป็นประจำหรือไม่ รวมไปถึงเรื่องต้นทุนในการ Implement ระบบงานต่างๆ ครับ
[65 ทวิ (5) เดิม : ให้คำนวณค่าหรือราคาของเงินตราหรือ ทรัพย์สินเป็นเงินตราไทยตามอัตราถัวเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชย์รับซื้อ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยได้คำนวณไว้ และให้คำนวณค่าหรือราคาของหนี้สินเป็นเงินตราไทยตามอัตราถัวเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชย์ขายซึ่ง ธนาคารแห่งประเทศไทยได้คำนวณไว้]
📍 2. สามารถคำนวณภาษีฯ ด้วยงบ Functional Currency ได้แล้ว
Case นี้คงทำให้บริษัทที่มี Functional Currency ที่ไม่ใช่ THB หายเหนื่อยไปยกใหญ่ เพราะปัจจุบันต้องทำงบอย่างน้อย 3 ชุด คือ
1. ชุด Functional เพื่อใช้บันทึกบัญชี
2. ชุด THB – Translated เพื่อส่งกรมพัฒน์ฯ
3. ชุด Real THB เพื่อใช้คำนวณภาษี
ดังนั้นหากมองในภาพใหญ่ คือ ลดภาระบริษัทในการทำชุดที่ 3 นั่นเอง
สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ เหตุผลในการประกาศใช้ พ.ร.บ. ฉบับนี้ ได้เขียนไว้ชัดเจนว่า “เพื่อให้การปฏิบัติจัดเก็บภาษีเงินได้จากบริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสอดคล้องกับมาตรฐานการบัญชี อันจะส่งผลเป็นการเพิ่มความสะดวกในการประกอบธุรกิจ ลดต้นทุนของผู้ประกอบการ”
เรียกว่าน่าจะเป็น Sign ที่ดีที่ภาษีสรรพากร มีความเข้าใจ และออกกฏหมายให้ใกล้หลักการบัญชีขึ้นทุกวันครับ
หมายเหตุ :
1. พ.ร.บ. ฉบับนี้เฉพาะภาษีเงินได้นิติบุคคล (CIT) ครับ ส่วนภาษีเงินได้ปิโตรเลียม เข้าใจว่าน่าจะรอลงราชกิจจาฯ อยู่ครับ (ตาม สนช. รวมทั้ง สภาฯ ได้มีการรายงานความคืบหน้ากันเป็นระยะ)
2. กฎหมายลูก หรือรายละเอียดต่างๆ คงจะตามมาในไม่ช้าครับ
Link ราชกิจจาฯ : http://www.ratchakitcha.soc.go.th/…/2562/A/045/T_0006.PDF