[ส่งของกับ Kerry 100 บาท Kerry ได้กำไรกี่บาท : โครงสร้างรายได้และต้นทุนของ Kerry]
วันนี้ Kerry หรือ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้ยื่น Filing version แรกต่อ สำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว
แอดเลยลองดูงบกำไรขาดทุน 6M/2020 ของ Kerry เลยสรุปโครงสร้างรายได้และต้นทุนของ Kerry มาฝากตามภาพครับ
สิ่งที่น่าสนใจคือ อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ ประมาณ 7% หมายความว่า เมื่อเราเสียค่าส่งของกับ Kerry 100 บาท Kerry ได้กำไรราวๆ 7 บาท
คำถามคือ ต้นทุน 93 บาท (93%) ส่วนใหญ่ประกอบด้วยอะไรบ้าง
1. ต้นทุนพนักงาน 35% : ต้นทุนของ Kerry ส่วนใหญ่เป็นต้นทุนพนักงาน ราวๆ 35% ของยอดขาย จึงกล่าวได้ว่า Kerry เป็นธุรกิจที่ต้องใช้แรงงานในการขับเคลื่อนเป็นหลัก (Labour-Intensive)
2. ค่าขนส่ง 26% : รองลงมาคือค่าขนส่ง (ภายใต้บรรทัดต้นทุนขายและการให้บริการ) ซึ่งค่าขนส่งนี้ ประกอบด้วยต้นทุนเชื้อเพลิง ค่าจ้างเหมา และค่ารักษาและซ่อมบำรุง ทั้งหมดคิดเป็น 26% ของยอดขาย สำหรับต้นทุนเชื้องเพลิงนั้นถือเป็นความเสี่ยงหนึ่งของ Kerry โดย Kerry เปิดเผยว่ามีความเสี่ยงด้านราคาน้ำมันและปริมาณเชื้อเพลิงที่ผันผวน โดยราคาน้ำมันเบนซินนั้นถือเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของ Kerry มากที่สุด
3. ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย 11% : ส่วนหนึ่งจากการเช่าที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ ทำให้มีสินทรัพย์สิทธิการใช้และต้องตัดค่าเสื่อมราคาตาม TFRS 16
โดยสรุปต้นทุนที่สำคัญของ Kerry ก็คือ ต้นทุนพนักงาน ค่าขนส่ง และค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายตามลำดับครับ
บทความนี้ไม่ได้ชี้นำหรือให้คำแนะนำการซื้อขายหลักทรัพย์ โปรดศึกษาข้อมูลจากบริษัทอย่างละเอียดก่อนการตัดสินใจลงทุนครับ