[After You กำไรลดลง 77% YoY เหลือ 55 ล้านบาทในปี 2563 จากกำไร 237 ล้านบาทในปีก่อน]
AU เพิ่งประกาศงบปี 2563 เมื่อช่วงสองทุ่มที่ผ่านมา กำไรลดลง 77% YoY เหลือ 55 ล้านบาทในปี 2563
.
เหตุผลหลักๆ คือ
🔺 รายได้รวมที่ลดลง จากโควิด 19 และ
🔺 ค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ต้นทุนขาย SG&A ฯลฯ ลดลงในสัดส่วนที่น้อยกว่าการลดลงของรายได้
………………………………………………………………………………………………………………
การลดลงของกำไร After You ได้อธิบายสาเหตุไว้ใน MD&A ดังนี้
🔵 รายได้
.
ในปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายจำนวน 768 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวลดลง 426 ล้านบาท หรือร้อยละ 36 จากปี 2562 โดยมีสาเหตุหลักดังนี้
.
🔺 รายได้จากร้านขนมหวานในปี2563 ลดลง 411 ล้านบาท หรือร้อยละ 37 จากปี 2562 เนื่องจากการปิดให้บริการการนั่งรับประทานอาหารภายในร้านเป็นการชั่วคราว ในช่วงไตรมาสที่ 2 รวมถึงการบริโภคโดยรวมในประเทศที่ลดลง
🔺 รายได้จากการขายสินค้าและวัตถุดิบในปี2563 ลดลง 25 ล้านบาท หรือร้อยละ 54 จากปี 2562 เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหญ่ลดลง
🔺 รายได้จากการขายและการจัดงานนอกสถานที่ในปี 2563 มีมูลค่า 44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 22 จากปี 2562 เนื่องจากการเพิ่มจำนวนจุดให้บริการและการขยายทีมเพื่อรองรับกลยุทธ์การขยายจำนวนการออกบูธ
🔺 รายได้จากแฟรนไชส์ในปี 2563 มีมูลค่า 3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2 ล้านบาท เนื่องจากการเริ่มธุรกิจแฟรนไชส์ร้านกาแฟ Mikka ในปี 2563
.
🔵 กำไรขั้นต้นและอัตรากำไรขั้นต้น
.
🔺 ในปี 2563 บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจำนวน 468 ล้านบาท ซึ่งปรับตัว ลดลง 305 ล้านบาท หรือร้อยละ 39 จากปี 2562 การลดลงดังกล่าว เกิดจากการลดลงของกำไรขั้นต้นตั้งแต่ไตรมาส 1 ถึงไตรมาสที่ 4 ปี 2563 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจาก การปิดให้บริการการนั่งรับประทานอาหารภายในร้านเป็นการชั่วคราว ตามมาตรการของรัฐบาล ในช่วงไตรมาสที่ 2 รวมถึงการบริโภคโดยรวมในประเทศและจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง
🔺 อัตรากำไรขั้นต้นในปี 2563 เท่ากับร้อยละ 60.9 ปรับตัวลดลงร้อยละ 3.8 จากปี 2562 เนื่องจากรายได้รวมที่ลดลงในสัดส่วนที่มากกว่าการลดลงของต้นทุนขายเนื่องจากยังต้องรับรู้ค่าใช้จ่ายคงที่ รวมถึงสัดส่วนสินค้าประเภทซื้อกลับบ้านและการสั่งซื้อผ่านบริการส่งอาหารที่สูงขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งกลุ่มสินค้าดังกล่าวมีต้นทุนด้านบรรจุภัณฑ์สูงกว่า สินค้าประเภทรับประทานในร้าน
.
🔵 ค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่าย
.
🔺 ในปี 2563 บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่าย จำนวน 251 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวลดลง 78 ล้านบาท หรือร้อยละ 24 จาก ปี 2562 เนื่องจากการดำเนินการแผนการลดค่าใช้จ่ายที่เริ่มในไตรมาส 2 ปี 2563 และการดำเนินการขอลดค่าเช่าพื้นที่จากการผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19
🔺 ค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่ายต่อรายได้รวมในปี 2563 เท่ากับ ร้อยละ 32.5 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 จากปี 2562 โดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้รวมที่ลดลงในสัดส่วนที่มากกว่าการลดลงของค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่ายและการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการบริการส่งอาหารที่เพิ่มขึ้น
.
🔵 ค่าใช้จ่ายในการบริหาร
.
🔺 ในปี 2563 บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการบริหารจำนวน 148 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวลดลง 14 ล้านบาท หรือร้อยละ 9 จากปี 2562 เป็นผลมาจากการดำเนินนโยบายแผนการควบคุมค่าใช้จ่ายของส่วนกลาง และการออกนโยบายให้ลาโดยไม่รับค่าแรง (Leave Without Pay) ที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2563
🔺 ค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อรายได้รวมในปี 2563 เท่ากับร้อยละ 19.1 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6 จากปี 2562 เนื่องจากรายได้รวมที่ลดลงในอัตราส่วนที่มากกว่าการลดลงของค่าใช้จ่ายในการบริหาร
.
🔵 กำไรสุทธิและอัตรากำไรสุทธิ
.
🔺ในปี 2563 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 55 ล้านบาท ซึ่งปรับตัว ลดลง 182 ล้านบาท หรือร้อยละ 77 จากปี 2562 โดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้รวมที่ลดลง เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด 19 และกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง ถึงแม้ว่าจะมีการออกนโยบายในการควบคุมค่าใช้จ่ายตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2563
🔺 อัตรากำไรสุทธิในปี 2563 เท่ากับร้อยละ 7.1 ปรับตัวลดลงร้อยละ 12.6 จากปี 2562 การปรับตัวของอัตรากำไรสุทธิมีสาเหตุหลักมาจากรายได้รวมที่ลดลงในสัดส่วนที่มากกว่าการลดลงของค่าใช้จ่าย ถึงแม้ว่าบริษัทฯ ได้ดำเนินแผนการลดต้นทุน เช่น การควบคุม ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับพนักงาน การดำเนินการขอลดค่าเช่า การออกนโยบายให้ลาโดยไม่รับค่าแรง (Leave Without Pay)
.
บทความนี้ไม่ได้ชี้นำหรือให้คำแนะนำการซื้อขายหลักทรัพย์ โปรดศึกษาข้อมูลจากบริษัทอย่างละเอียดก่อนการตัดสินใจลงทุนครับ