เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO ก็ได้ประกาศงบ Q1/2564 ออกมาแล้ว หากดูตัวเลขกำไรสุทธิ Q1/2564 จะอยู่ที่ 1,734 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53 ล้านบาท หรือ 3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,681 ล้านบาท
.
อย่างไรก็ดีรายได้จากการขายใน Q1/2564 อยู่ที่ 54,868 ล้านบาท ลดลง 291 ล้านบาท หรือ 0.5% เมื่อเทียบกับ Q1/2563 ที่มียอดขาย 55,159 ล้านบาท
.
MAKRO ได้อธิบายถึงสาเหตุที่ยอดขายลดลงไว้อย่างน่าสนใจครับ
.
ทั้งประเด็นสำคัญอย่าง COVID-19 ในเรื่อง panic buying ซึ่ง MAKRO ได้อธิบายไว้ว่า “เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2563 และการแพร่ระบาดระลอกใหม่เมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจอาหารซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทฯ ประกอบกับในเดือนมีนาคมของปีก่อน ลูกค้ามีการซื้อสินค้าล่วงหน้าเนื่องจากความวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (panic buying)”
.
อย่างไรก็ดี อีกเหตุผลหนึ่งที่ MAKRO ได้ให้ไว้ (และแอดก็คิดไปไม่ถึง เพราะ 4 ปี เกิดครั้งนึง) คือ “จำนวนวันในช่วงไตรมาส 1” โดยMAKRO ระบุว่า “อีกทั้งไตรมาสที่ 1 ของปีก่อนมีจำนวนวันมากกว่าปีนี้ 1 วัน หากเทียบยอดขายโดยใช้จำนวนวันที่เท่ากันแล้ว บริษัทฯ จะมียอดขายในไตรมาสนี้สูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน”
.
ลองเทียบบัญญัติไตรยางศ์เล่นๆ ถ้า Q1/2564 นี้ เกิดมี 91 วันจริงๆ รายได้ก็น่าจะอยู่ที่ 55,478 ล้านบาท (รายได้ต่อวันประมาณ 610 ล้านบาท) ซึ่งสูงกว่า Q1/2563 ตามที่ MAKRO พยายามเปรียบเทียบเลยครับ
.
ในช่วงสถานการณ์แบบนี้ มีเหตุผลอะไรที่จะช่วยอธิบายผลประกอบการได้ ก็เรียกได้ว่าเทกันหมดหน้าตัก
.
และก็ไม่น่าเชื่อว่า 1 วันที่ไม่เท่ากัน ระหว่างไตรมาส 1 ปี 2564 กับไตรมาส 1 ปี 2563 จะสามารถส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในยอดขาย ของ MAKRO ได้ถึงขนาดกลับ Sign ได้เลยทีเดียวครับ
.
Source : MD&A MAKRO Q1/2564
บทความนี้ไม่ได้ชี้นำหรือให้คำแนะนำการซื้อขายหลักทรัพย์ โปรดศึกษาข้อมูลจากบริษัทอย่างละเอียดก่อนการตัดสินใจลงทุนครับ